รักษารากฟันหรือถอนฟัน แบบไหนดีกว่า

เมื่อฟันผุจนทะลุโพรงประสาท คนไข้จะเริ่มมีอาการปวดและบวม ซึ่งวิธีการรักษาจะมีอยู่ 2 แบบ คือการรักษารากฟันและการถอนฟัน โดยการรักษาทั้ง 2 แบบนี้ มีวิธีการ ข้อแตกต่าง ความจำเป็น และค่าใช้จ่ายที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ถ้าจะสรุปง่ายๆ หากฟันที่ผุมีสภาพดี เหลือเนื้อฟันมากพอให้บูรณะ ก็ควรรักษารากฟันแทนที่จะถอนเพราะจะช่วยป้องกันปัญหาที่อาจตามมาในอนาคตได้ เช่น ฟันล้ม หรือ กระดูกบริเวณที่ถูกถอนไปนั้นฝ่อหรือว่าหดตัวไปหากไม่มีการใส่ฟันปลอม

โดยในบทความนี้ เราจะมาอธิบายเปรียบเทียบการรักษาทางทันตกรรมทั้ง 2 แบบนี้ว่าเป็นอย่างไร แล้วสรุปควรเลือกแบบไหน

กระบวนการรักษา

การรักษารากฟัน คือ การรักษาฟันผุจนถึงโพรงประสาทฟันโดยยังคงรักษาฟันเก่าให้ไว้ใช้งานได้ ซึ่งกระบวนการรักษาหลักๆ คือ ทันตแพทย์จะใช้เเครื่องมือเล็กๆเอาเนื้อฟันที่ผุออก แล้วจึงใช้เครื่องมือเล็กๆของหมอ ลงไปทำความสะอาดตามแกนกลางฟัน เพื่อทำความสะอาดฟันที่มีการติดเชื้อ

หลังจากรักษาเสร็จ ก็จะมีการอุดรากฟัน นัดเข้ามาดูอาการ และอาจมีการครอบฟันร่วมด้วยเพื่อไว้ใช้งานต่อไป ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ตัวฟันจะยังคงฝังอยู่ในเหงือกของคนไข้ ไม่ได้ถูกเอาออกไป

ส่วนการถอนฟันนั้น จะมีขั้นตอนการรักษาที่ง่ายและตรงไปตรงมา ใช้เวลาโดยเฉลี่ย 10-15 นาทีเท่านั้น ซึ่งกระบวนการรักษาหลักๆ คือ ทันตแพทย์จะทำการค่อยๆ ดันและโยกตัวฟันให้ค่อยๆ หลุดออกมาจากเบ้า เมื่อฟันหลุดออกมา บางครั้งอาจต้องมีการเย็บแผลร่วมด้วย เพื่อให้แผลมีการหายได้ดีขึ้น

จะเห็นได้ว่า การถอนฟันมีขั้นตอนการรักษาที่เรียบง่ายและเร็วกว่าการรักษาราก

การฟื้นตัว

ในการรักษารากฟัน คนไข้จะเริ่มหายปวดภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังการรักษา และจะฟื้นตัวเต็มที่ภายใน 24 ชั่วโมง ในขณะที่การถอนฟัน คนไข้จะเริ่มหายปวดภายใน 24-48 ชั่วโมง และ จะใช้เวลาประมาณ 5-7 วันเพื่อให้แผลสมานเต็มที่ แต่อาจใช้เวลาประมาณ 2-4 อาทิตย์เพื่อให้กระดูกเบ้าฟันกลับมาสมบูรณ์

จะเห็นได้ว่า การรักษาราก คนไข้จะฟื้นตัวได้เร็วกว่าการถอน

ค่าใช้จ่าย

การรักษารากฟัน 1 ซึ่ นั้นจะมีค่าใช้อยู่ 2 ส่วน ได้แก่ ค่ารักษา และ ค่าครอบฟันเพื่อบูรณะ โดยจะมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นคร่าวๆ ดังนี้:

  • ค่าใช้จ่ายในการรักษา: 5,000 – 6,000 บาท
  • ค่าใช้จ่ายสำหรับการครอบฟัน: 9,000 – 15,000 บาท
  • รวม = 14,000 – 21,000 บาท

ส่วนการถอนฟันนั้น จะอยู่ที่ประมาณ 700 – 1,000 บาท ต่อซี่ เท่านั้น ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ค่าใช้จ่ายในการถอนฟันจะนถูกกว่าการรักษารากฟันหลายเท่า

ความเสี่ยงในการรักษา

ความเสี่ยงหลักๆ ในการรักษารากฟันได้แก่

  • อาการติดเชื้อหากเอาเนื้อฟันที่ผุออกไม่หมด
  • การผุซ้ำของฟัน
  • ฟันที่ได้รับการรักษาเกิดหักเพราะไม่สามารถรับแรงกดในการบดเคี้ยวใช้งานได้

ในขณะที่ความเสี่ยงหลักๆ ในการถอนฟันได้แก่

  • กระดูกเบ้าฟันอักเสบเนื่องมากจากลิ่มเลือดที่สมานแผลหลุดออกมา
  • อาการติดเชื้อหลังการถอนหากไม่ดูแลความสะอาดดีพอ
  • ประสาทฟันและเหงือกที่ได้รับการเสียหาย
  • ปัญหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระดูกขากรรไกร

นอกจากนี้ หากหลังจากการถอนฟันไม่มีการวางแผนที่จะใส่ฟันปลอม เช่น รากเทียม เพื่อไปทดแทนฟันที่หายไป ในระยะยาว คนไข้อาจเกิดอาการฟันล้มได้ ซึ่งเกิดมากจากการเคลื่อนตัวของฟันโดยรอบเข้ามาแทนที่พื้นที่ว่างที่หายไป

จะเห็นได้ว่าโดยรวมแล้ว การรักษารากฟันนั้นมีความเสี่ยงที่น้อยกว่ามาก รวมถึงยังต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายสำหรับฟันปลอมเพิ่มเติมอีกด้วยหากคนไข้เลือกถอนฟัน เพิ่อป้องกันปัญหาในระยะยาว

เลือกแบบไหนดี

ถ้าจะให้สรุปง่ายๆ จากด้านบน เราขอแนะนำให้ทำการรักษารากฟันดีกว่า เพราะถึงแม้จะมีขั้นตอนการรักษาและค่าใช้จ่ายเบื้องต้นที่เยอะกว่าการถอนฟัน แต่ในการฟื้นตัว ความเสี่ยง และค่าใช้จ่ายในระยะยาวนั้น ถือว่าคุ้มกว่ามาก

ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าฟันผุทุกเคสจะสามารถรักษารากฟันได้ ดังนั้นสุดท้ายแล้ว คนไข้ก็ต้องให้ทันตแพทย์เป็นผู้เช็คอาการและตัดสินว่าแบบไหนเหมาะที่สุด

โดยหากท่านกำลังมองหาคลินิกทันตกรรมคุณภาพแล้วละก็ ท่านสามารถามารถติดต่อมาหาเราได้ ทางรวมทันตแพทย์คลินิกมีประสบการณ์ด้านทันตกรรมมามากกว่า 15 ปี มีคุณหมอเฉพาะด้านที่พร้อมให้คำปรึกษาฟรี พร้อมไขข้อสงสัยทุกข้อ และยังมาพร้อมโปรโมชั่นให้เลือกมากมาย ติดต่อเราวันนี้ โทร: 095-713-0027, 02-428-5814 หรือ LINE ID: @ruamdental

Similar Posts