เหงือกบวม อักเสบ มีเลือดออก เกิดจากอะไร รักษายังไง

ปัญหาเหงือกบวม อักเสบ และ มีเลือดออกนั้นสามารถเกิดได้กับทุกคน โดยส่วนใหญ่จะเกิดมาจากอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ เช่น การแปรงฟันแรงจนเกินไป หรือ การโดนอาหารเสียดสี ซึ่งจะหายไปเองภายในไม่กี่วัน แต่หากสังเกตว่าอาการที่พบเจอเป็นบ่อยๆ และไม่หาย ปัญหาดังกล่าวอาจมีความรุนแรงกว่าที่คิด และถ้าหากปล่อยไว้ อาจทำให้สูญเสียฟันได้

หากสรุปสั้นๆ ถ้าเหงือกมีการอักเสบและมีเลือดออกบ่อยๆ สาเหตุหลักมักจะเกิดจากโรคลักปิดลักเปิด ซึ่งมาจากการขาดวิตามินซีอย่างรุนแรง ไม่ก็เกิดจากโรคเหงือกอักเสบ หรือ ที่เรียกว่า โรคปริทันต์ โดยในบทความนี้ เราจะมาอธิบายสาเหตุ และวิธีการดูแลรักษากัน

ข้อแตกต่างของอาการ

โรคลักปิดลักเปิดและโรคเหงือกอักเสบหรือ โรคปริทันต์ (Periodontal disease) นั้น โดยส่วนใหญ่จะมีอาการที่ใกล้เคียงกัน เช่น เหงือกมีอาการบวมแดง เลือดออกตามไรฟันเวลาแปรงฟัน เหงือกมีลักษณะเป็นฟองน้ำเวลากด แต่ทั้ง 2 อาการ ก็มีต้นเหตุ และอาการอื่นๆ ที่แตกต่างกัน ดังนี้

โรคลักปิดลักเปิด

  • เกิดจากการขาดวิตามินซีอย่างรุนแรง โดยนอกจากจะมีปัญหาที่เหงือกแล้ว คนไข้จะมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น รู้สึกอ่อนเพลีย เฉื่อยชา และไม่ค่อยมีแรง
  • อาการเริ่มต้นจะไม่รุนแรงมาก โดยสามารถสังเกตได้หลักๆ จากการที่มีเลือดออกตามไรฟันขณะแปรงฟัน แต่ถ้าปล่อยไว้ นอกจากจะเสี่ยงการสูญเสียฟันแล้ว คนไข้ยังมีอาการปวดข้อกระดูก แผลหายยาก และมีจุดแดงๆ หรือ ม่วงๆ ใต้ผิวหนังอีกด้วย
  • สามารถรักษาได้โดยรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซี เช่น ผลไม้ที่รสเปรี้ยว ผลไม้ตะรกูลเบอรรี่ เป็นต้น

โรคปริทันต์ (โรครำมะนาด)

  • เกิดจากการสะสมของเชื้อจุลินทรีย์ แบคทีเรีย เป็นเวลานาน ทำให้เกิดการติดเชื้อและทำลายเหงือกและกระดูกรอบฟัน
  • อาการเริ่มต้นที่สามารถสังเกตได้ คือ เหงือกบวม อักเสบ มีเลือดออกตามไรฟัน และที่สำคัญคือ มีกลิ่นปากร่วมด้วย
  • หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา จะทำให้ความแข็งแรงของฟันหายไป สุดท้ายฟันโยกมาก จนต้องถอน
  • คนไข้ที่เป็นโรคปริทันต์ จะไม่มีอาการอื่นๆ ในร่างกายร่วมด้วย โดยจะเป็นแค่เฉพาะจุดในช่องปาก หรือ บริเวณโดยรอบที่มีการติดเชื้อ
  • วิธีการรักษาหลักๆ คือ การมาพบทันตแพทย์ เพื่อทำการขูดหินปูน เกลารากฟัน และทำความสะอาดฟัน โดยต้องอาศัยความร่วมมือของคนไข้เป็นอย่างมาก เพราะอาจต้องใช้เวลาทำมากกว่า 1 ครั้ง และต้องหมั่นมาพบทันตแพทย์เพื่อตรวจเช็คเป็นประจำทุก 6 เดือน หรือตามที่ทันตแพทย์นัดหมาย
  • สามารถป้องกันได้ง่ายๆ เพียงแปรงฟันให้สะอาดอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ใช้ไหมขัดฟันทุกครั้งหลังแปรงฟันเสร็จ เพื่อขจัดเศษอาหารที่อาจติดตามซอกฟัน และ พบทันตแพทย์ทุกๆ 6 เดือน เพื่อเช็คฟัน และ ขูดหินปูน

สาเหตอื่นๆ ที่อาจเกี่ยวข้อง

นอกจาก 2 โรคที่กล่าวไป สาเหตอื่นๆ ที่อาจทำให้เหงือกอักเสบและเลือดออกได้แก่:

  • ฟันผุ โดยเฉพาะหากลุกลามไปถึงโพรงประสาทฟัน
  • มีฟันคุดและเหงือกได้รับการระคายเคืองเป็นเวลานาน
  • มีกระดูกงอก ทำให้มีการดันเหงือกออกมาจนเกิดอาการอักเสบ
  • เกิดจากผลข้างเคียงของการกินยาบางประเภท
  • เกิดจากก้อนมะเร็ง ซึ่งอาจสังเกตได้จากลักษณะเหงือกบวมฟูคล้ายดอกกะหล่ำ

พบทันตแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัย

จากที่ได้อธิบายไป ปัญหาเกี่ยวกับเหงือกนั้น ถ้าปล่อยไว้ อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพช่องปากอื่นๆ ตามมาได้ และถ้าหากไม่ได้เกิดจากโรคที่ได้อธิบายไป ก็อาจเกิดจากปัญหาที่ใหญ่กว่าได้ ดังนั้นแล้ว หากท่านสังเกตว่าเหงือกมีอาการอักเสบ เลือดออกบ่อยๆ บวม แดง และไม่ยอมหาย ทางที่ดีที่สุด คือ การไปพบทันตแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัย

โดยหากท่านกำลังมองหาคลินิกทันตกรรมคุณภาพแล้วละก็ ท่านสามารถามารถติดต่อมาหาเราได้ ทางรวมทันตแพทย์คลินิกมีประสบการณ์ด้านทันตกรรมมามากกว่า 15 ปี มีคุณหมอเฉพาะด้านที่เกี่ยวกับโรคเหงือกพร้อมให้คำปรึกษาฟรี และยังมาพร้อมโปรโมชั่นให้เลือกมากมาย ติดต่อเราวันนี้ โทร: 095-713-0027, 02-428-5814 หรือ LINE ID: @ruamdental

Similar Posts