รากฟันเทียม vs ฟันปลอม แบบไหนดีกว่ากัน

รากเทียม กับ ฟันปลอม เป็นการรักษาทางทันตกรรมเพื่อทดแทนฟันที่หายไป ซึ่งทั้ง 2 การรักษานั้น ก็มีข้อดี ข้อเสีย วิธีการรักษาและดูแลที่ต่างกัน

ซึ่งหากสรุปง่ายๆ รากเทียมนั้นจะให้ความรู้สึกเหมือนกับฟันธรรมชาติมากกว่า มีอายุการใช้งานที่นานกว่า แต่ก็จะมีค่าใช้จ่ายและขั้นตอนการรักษาที่สูงและเยอะกว่าฟันปลอมทั่วไป โดยในบทความนี้ เราจะมาเปรียบเทียบทั้งสอง พร้อมแนะนำว่าแบบไหนเหมาะกับคุณกัน

นิยามของการรักษา

ก่อนอื่น ต้องเข้าใจก่อนว่า รากเทียมกับฟันปลอมคือการรักษาแบบเดียวกัน เพราะคำว่าฟันปลอม หมายถึง การใช้ฟันที่ประดิษฐ์ขึ้นมา เพื่อทดแทนฟันธรรมชาติที่หายไป โดยจะแบ่งออกแป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ ฟันปลอมติดแน่น และ ถอดได้ ซึ่งรากเทียมนั้น ก็ถือเป็นฟันปลอมแบบติดแน่น เพราะตัววัสดุจะยึดติดในกระดูกแบบถาวร

เพื่อขยายความเพิ่มเติม รากเทียม คือ วัสดุที่มาแทนรากฟันทำจากไทเทนียม ซึ่งเป็นวัสดุที่ทนทาน เข้าได้ดีกับร่างกายมนุษย์โดยไม่มีผลข้างเคียง โดยรากฟันเทียมจะฝังลงในไปในกระดูกเพื่อเพื่อทดแทนฟันที่หายไปตั้งแต่ 1 ซี่ จนไปถึงฟันหายทั้งปาก

ส่วนฟันปลอมที่เราจะพูดถึง คือ ฟันปลอมแบบถอดได้ต่างๆ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 3 แบบ คือ ฟันปลอมทั้งปาก แบบถอดได้บางส่วน และ แบบถอดได้วอลพลาส

เมื่อเข้าใจข้อแตกต่างตรงนี้แล้ว เราไปดูในส่วนของความแตกต่างในแต่ละหัวข้อกัน

ความสวยงาม

รากฟันเทียมจะมีความเป็นธรรมชาติ สวยงามมากกว่า โดยแต่ละซี่จะออกแบบมาให้เข้ากับฟันซี่อื่นๆ ได้เป็นธรรมชาติ ในขณะที่ฟันปลอมนั้น ก็ได้มีการพัฒนาให้ดูแป็นธรรมชาติมากขึ้น แต่ก็ยังไม่เท่ารากเทียม นอกจากนี้ ฟันปลอมอาจหลวมและหลุดได้ในระหว่างการใช้งาน ทำให้เสียบุคลิกและความมั่นใจ

ประสิทธิภาพในการใช้งาน

รากเทียมนั้นมีประสิทธิภาพในการใช้งานที่ดีกว่า รวมไปถึงความสะดวกสบายในการใช้งานด้วย เพราะตัวฟันจะยึดติดแน่นในกระดูก ทำให้สามารถใช้บดเคี้ยวได้เป็นธรรมชาติ เท่าเทียมกับการใช้ฟันจริง ในขณะที่การใช้งานของฟันปลอมนั้น บางครั้งอาจจะไม่สะดวกสบาย เพราะปัญหาฟันปลอมขยับระหว่างพูดคุย หรือรับประทานอาหาร

อายุการใช้งานและการดูแลรักษา

รากเทียมนั้นมีความแข็งแรง ทนทานสูง สามารถใช้งานได้ยาวนาน โดยอาจจะตลอดชีวิตหากดูแลรักษาดี นอกจากนี้ วิธีการรักษาทำความสะอาดนั้นก็ง่าย ไม่ซับซ้อน เหมือนกันการดูแลฟันปกติทั่วไปได้เลย ในขณะที่ฟันปลอมนั้น มีอายุการใช้งานโดยเฉลี่ยประมาณ 5-10 ปี ก่อนที่จะต้องทำการเปลี่ยน และยังมีการดูแลรักาษาที่มากกว่าหลายขั้นตอน เช่น การถอดแช่น้ำไว้ก่อนนอน เป็นต้น

ระยะเวลาในการรักษาและฟื้นตัว

การฝังรากเทียมนั้น มีขั้นตอนการรักษาที่ซับซ้อนและเยอะกว่าอย่างมาก เพราะต้องมีการผ่าตัดฝังตัวฟันเทียมลงไปในกระดูก และหลังรักษาเสร็จ ก็อาจใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน เพื่อให้กระดูกโดยรอบฟื้นตัวอย่างเต็มที่ ในขณะที่ฟันปลอมนั้น มีเพียงแค่ขั้นตอนการพิมพ์ฟัน และอื่นๆ อีกเล็กน้อย จึงทำให้สามารถรักษาเสร็จได้เร็ว ไม่ซับซ้อน และคนไข้สามารถฟื้นตัวได้ภายในไม่กี่วัน

ค่าใช้จ่าย

รากเทียมนั้นมีค่าใช้ในการรักษาที่สูงกว่าฟันปลอมมาก โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 30,000 – 50,000 บาท ต่อซี่ เมื่อเทียบกับฟันปลอม ที่จะมีค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยประมาณ 3,000 – 5,000 บาท ต่อซี่ แต่ในรยะยาวแล้ว รากเทียมอาจเป็นการรักษาที่คุ้มกว่า เพราะแทบไม่ต้องมีการเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

ผลลัพธ์ต่อสุขภาพปาก

รากเทียมนั้นโดยรวมถือเป็นการรักษาที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีมากต่อสุขภาพปากโดยรวม เพราะจะช่วยป้องกันการสลายของมวลกระดูก และการรักษาจะไม่กระทบฟันโดยรอบ ในขณะที่ฟันปลอมนั้น ไม่ได้ป้องกันในจุดนี้ และอาจทำให้มีปัญหาเหงือกตามมาได้จากการกดทำของตัววัสดุบนเหงือกเป็นเวลานาน

สรุปแบบไหนดีกว่ากัน

จากที่ทำการเปรียบเทียมการรักษาทั้งสองแบบไป จะเห็นได้ว่าโดยรวมแล้ว การฝังรากเทียมนั้นดีกว่าฟันปลอมในหลายด้านมาก ไม่ว่าจะเป็นความสวยงาม การดูแลรักษา และผลลัพธ์ต่อสุขภาพปากในระยะยาว แต่ก็ต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่สูง การรักษาที่ซับซ้อน และการฟื้นตัวที่นานกว่า

ซึ่งสุดท้ายแล้ว นอกจากปัจจัยที่กล่าวไป ยังมีเรื่องของความเหมาะสม อายุ และโรคประจำตัวที่คนไข้ต้องคำนึงถึงก่อนการทำการรักษาอีกด้วย ดังนั่น เราขอแนะนำให้ปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวางแผนการรักษาที่ดีที่สุด

โดยหากท่านกำลังมองหาคลินิกทันตกรรมคุณภาพแล้วละก็ ท่านสามารถามารถติดต่อมาหาเราได้ ทางรวมทันตแพทย์คลินิกมีประสบการณ์ด้านทันตกรรมมามากกว่า 15 ปี มีคุณหมอเฉพาะด้านที่พร้อมให้คำปรึกษาฟรี พร้อมไขข้อสงสัยทุกข้อ และยังมาพร้อมโปรโมชั่นให้เลือกมากมาย ติดต่อเราวันนี้ โทร: 095-713-0027, 02-428-5814 หรือ LINE ID: @ruamdental

Similar Posts